Daily Scrum หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "Stand-up Meeting" คือการประชุมสั้นๆ ที่จัดขึ้นทุกวันสำหรับทีมพัฒนาในกระบวนการ Scrum โดยมีเป้าหมายเพื่อประสานงานและติดตามความคืบหน้าของงานใน Sprint (ช่วงเวลาการทำงานสั้นๆ ที่กำหนดไว้) ที่มาของ Daily Scrum มาจากแนวคิด Agile ที่เน้นการสื่อสารและการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทีมสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว การประชุมนี้ไม่ใช่การรายงานความคืบหน้าให้หัวหน้า แต่เป็นการให้ทีมพัฒนาได้พูดคุยกันเอง
Daily Scrum ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการทำงานเป็นทีม เช่น ปัญหาการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน ปัญหาการทำงานซ้ำซ้อน ปัญหาการติดขัดของงาน หรือปัญหาการไม่เข้าใจเป้าหมายของ Sprint การประชุมนี้ช่วยให้ทีมมองเห็นภาพรวมของงานที่ทำร่วมกัน ทำให้ทุกคนในทีมเข้าใจว่าใครกำลังทำอะไร มีปัญหาอะไร และต้องการความช่วยเหลือจากใคร การประชุมนี้จึงช่วยลดปัญหาการทำงานแบบตัวใครตัวมัน และส่งเสริมการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ
พัฒนาการของ Daily Scrum เริ่มจากการประชุมที่เน้นการตอบคำถาม 3 ข้อ ได้แก่ "เมื่อวานทำอะไร" "วันนี้จะทำอะไร" และ "มีอะไรเป็นอุปสรรค" ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเน้นไปที่การพูดคุยเกี่ยวกับความคืบหน้าสู่เป้าหมายของ Sprint มากกว่าการตอบคำถามแบบตายตัว ปัจจุบัน Daily Scrum มักจะใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที และเน้นการพูดคุยที่กระชับและตรงประเด็น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของทีม
วิธีการทำงานของ Daily Scrum คือสมาชิกในทีมพัฒนาจะผลัดกันพูดคุยเกี่ยวกับความคืบหน้าของงาน โดยเน้นไปที่การอธิบายว่างานที่ทำนั้นส่งผลต่อเป้าหมายของ Sprint อย่างไร หากมีปัญหาหรืออุปสรรคก็จะมีการพูดคุยเพื่อหาทางแก้ไขร่วมกัน Scrum Master จะมีบทบาทในการอำนวยความสะดวกในการประชุมและช่วยให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงประเด็น แนวโน้มของ Daily Scrum ในปัจจุบันคือการนำเครื่องมือต่างๆ มาช่วยในการติดตามความคืบหน้าของงาน เช่น บอร์ด Kanban หรือซอฟต์แวร์ Project Management ต่างๆ เพื่อให้การประชุมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่ทีมพัฒนาได้พูดคุยกันอย่างเปิดอกและร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายของ Sprint